เรื่องปราบปรามชุมชุมผู้ประท้วงไม่ยอมออก ที่เรื่องคนเอาต้นไม้ดันออกเป็นข่าวหน้าหนึ่ง
ปิตินั่งอ่านหนังสือพิมพ์ทำใจกับข่าวที่ทำให้ตัวเองดังเพียงข้ามคืน เขารู้สึกอายกับการกระทำของเขา
จึงพยายามแอบซ่อนตัวหลบตำรวจหลบผู้คนอยู่แต่เพียงในห้อง ยามจะออกไปหาข่าวกินก็แสนลำบากคราวกับเป็นดารายอดนิยม
เริ่มวิตกกังวลกับสิ่งรอบตัวระวังไปหมดจะทุกเรื่อง หลังๆเริ่มเหมือนจะมีอาการแทรกซ้อนคิดมโนภาพเหมือนกับใครมาแอบนินทาอยู่ใกล้ๆ
แทบจะแยกไม่ออกว่าสิ่งไหนจริงสิ่งไหนปลอม แม้แต่เสียง ต้นไม้ สิ่งของ ก็เหมือนจะมีจิตมีชีวิต
สัมผัสได้ทุกอย่างเหมือนพี่ริวจิตสัมผัส ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนถือศีลกินเจ
ทั้งยังละเมิดศีลทั้ง 5 เกือบครบทุกข้อ โดยเฉพาะข้อ 3 ละเมิดถึงขั้นรุนแรงไปมีอะไรกับต้นกล้วย ปิตินั่งคิดนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ไปเรื่อยๆ
และเขาก็ต้องมาหยุดที่ข่าวการปราบปรามชุมนุม
รายชื่อผู้บาดเจ็บมีเพื่อนสนิทของเขาอยู่ ด้วยความเป็นห่วงอาการของเพื่อนจึงรีบรุดไปหา
แต่ก็เกือบจะลืมไปว่าตัวเองเป็นดาราดัง จะออกไปที่สาธารณะตอนกลางวันคงไม่ได้
จะรอให้ข่าวหายซาก็ไม่ได้เพราะอีกไม่ถึงอาทิตย์ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารคงจะไม่ทันความ
คงต้องตัดสินใจออกไปตอนดึกๆถึงแม้จะมีประกาศเคอร์ฟิว
ปิติเลือกทางเดินซอยเปลี่ยวมืดสนิทหลังโรงพยาบาลเพื่อหลบผู้คน
เขารีบรุดเดินคนเดียวไม่สนใจว่าใครจะมาปล้นจี้หรือผีสางนางไม้จะมาหลอก พร้อมกับในมือมีซองจดหมายฉบับหนึ่ง
ระหว่างทางสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่อยู่ใกล้ๆนี้ ยิ่งเดินเข้าไปใกล้โรงพยาบาลเรื่อยๆยิ่งสัมผัสความรู้สึกที่กระทบต่อ
แท่งปู๋ตนเองเด้งตรงอย่างรุนแรง มีแววว่าอาการจิตสำส่อนกำลังทำงาน และแล้วเขาก็พบกับผู้หญิงคนหนึ่ง
เหมือนเธอกำลังหาอะไรอยู่บางอย่าง เธอเดินเข้ามาขอให้เขาช่วยหาต่างหูข้างหนึ่งให้ที
หน้าตาเธอสวยผิวขาวผมยาว เธอเหมือนไม่รู้สึกตัวต่ออันตรายในซอยเปลี่ยวเลย สวมเสื้อกันหนาว
กางเกงขาสั้นจิ๋ว แม้แต่คนแปลกหน้าอย่างเขาก็ไม่กลัว ใจหนึ่งก็ระแวงว่าจะโดนผีหลอกแต่ผีอะไรจะมาอยู่ใกล้ศาลพระภูมิแถวนี้
ด้วยความหน้าหม้อบวกกับความเป็นห่วง หวังจะสร้างความดีพ่วงให้เธอถูกใจ ปิติรับอาสาช่วยหาต่างหูเธอ
ระหว่างที่ทั้งคู่พยายามก้มมองหา เธอก็สะดุ้งร้องด้วยความตกใจ ถอดเสื้อกันหนาวออกทำให้เห็นหน้าอกตูมใหญ่น่าดูดขยี้ทับด้วยเสื้อสายเดี่ยวเด้งไปมา
ตอนเธอหลับตากระโดดเอาเสื้อกันหนาวไล่ปัดแมลงที่ไต่หลัง “ช่วยเอาแมลงออกจากหลังหน่อยค่ะ”
ปิติบอกให้เธอหลับตาอยู่นิ่งๆรอจังหวะจับแมลง
ทุกอย่างเป็นใจต่อจิตสำส่อนเหลือเกิน มันไต่ลงไปที่บั้นท้ายเธอ ปิติจับปั้นท้ายมันอย่างเต็มเปาแต่ด้วยความไวของมันก็หนีไปจนได้
แมลงคู่บุญไต่ไปตรงนั้นที่ตรงโน้นที่ ปิติเล่นย่ำไล่ตั้งแต่หน้าอกตูมลงไปถึงขาอ่อนขาวๆ
และเธอเริ่มหน้าแดงเขินเหมือนจะชอบใจอยู่ไม่น้อยเพราะเธอก็ไม่ได้โว้ยวายอะไร เขาเลยแอบเอาแท่งปู๋ถูกับเนื้ออ่อน
จิ่มเข้าจิ่มออกไล่ตามแมลง แต่จู่ๆเจ้าแมลงตัวนั้นก็บินออกไปดื้อๆ เขาถึงกับเซ็งไล่ตามตีมัน
ไปจนถึงที่มันเกาะใต้ศาลพระภูมิ และปิติก็พบต่างหูของเธอตกอยู่ “เจอแล้ว” ปิติบอก เธอดีใจจนลืมตัววิ่งเข้ามากอดปิติ
เมื่อเธอรู้สึกตัวก็ถอยออกมาห่าง เธอกล่าวคำขอบคุณแก่ปิติที่ช่วยหาต่างหู
ก่อนที่เธอจะเดินจากไปทิ้งให้แท่งปู๋จิตสำส่อนค้างเติ่ง
เขาเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยรวมที่เพื่อนเขานอนพักอยู่
ขณะที่กำลังสอดจดหมายไว้ในลิ้นชัก เตียงข้างๆกำลังชุลมุนกับการช่วยเหลือผู้ป่วยอยู่
ปิติเหลือบมองดูและต้องตกใจ ผู้ป่วยข้างเพื่อนเขา
เธอเหมือนกับผู้หญิงที่เขาช่วยหาต่างหูไว้
ปิติจึงถามพยาบาลดูว่าเธอเป็นใครมาจากไหน พยาบาลบอกว่า ”เธอเพิ่งได้สติกลับคืนมาคะ ก่อนหน้านั้นเธอประสบอุบัติเหตุ นอนสลบไม่ได้สติมาเกือบเดือนแล้ว” “เธอได้รับอุบัติเหตุที่ซอยหลังโรงพยาบาลใช่ไหมครับ” ปิติถามต่อ “ฉันไม่แน่ใจเหมือนกันคะ แต่เคยได้ยินข่าวลือเล่าว่าตอนนั้นเธอหาต่างหู แถวซอยหลังโรงพยาบาลแล้วเจออุบัติเหตุ” พยาบาลตอบ “มีข่าวลือว่า ญาติเธอเคยไปขอให้ริวจิตสัมผัสช่วยแก่ของให้เธอด้วยนะค่ะ
แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะพี่ริวบอกว่าของแรงเกิน เลยไม่ยุ่ง เธอเลยไม่ฟื้นสักที สงสัยวันนี้จะมีคนแก้ของให้เธอแล้ว เธอถึงฟื้นได้สติกลับมา” พยาบาลเล่าต่อจนจบ
จบแล้ว กุละ งง กับเว็บนี้ทุกที่ จบกลางตอน บ้างอะไรบาง จนไม่อยากอ่านเว็บแบบนี้เลย เห้อ
ตอบลบจบแล้ว กุละ งง กับเว็บนี้ทุกที่ จบกลางตอน บ้างอะไรบาง จนไม่อยากอ่านเว็บแบบนี้เลย เห้อ
ตอบลบ